อาชีพนายหน้าอสังหา คือ อาชีพที่ได้ผลตอบแทนสูงจึงทำให้คนอยากเข้ามาทำงานนี้กันเยอะ แต่คนเหล่านี้มักจะสงสัยว่า งานนายหน้าอสังหาฯ อิสระ กับ นายหน้าสังกัดบริษัท มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ทำแบบไหนจึงจะมีรายได้ดีกว่า ทำงานง่ายกว่า และควรเลือกทำแบบไหนถึงจะดีที่สุด หากคุณมีคำถามต่างๆ ที่ว่ามาอยู่ในใจเหมือนกัน สามารถหาคำตอบได้ในบทความนี้
อะไรที่ทำให้งานนายหน้าอสังหาฯ มีคนนิยมเข้ามาทำมากขึ้นเรื่อยๆ
ใครๆ ก็มักจะเข้าใจว่าการทำงานนายหน้าอสังหาฯ นั้นเป็นงานที่มีรายได้ดี เป็นงานสบาย มีอิสระ ไม่ต้องลงทุนอะไร แค่ติดต่อผู้ที่สนใจ เมื่อตกลงซื้อขายแล้วก็ได้รับค่าคอมมิชชัน เหมือนจับเสือมือเปล่า รวมถึงหลายๆ คนก็รู้สึกเบื่อการทำงานประจำ อยากเลือกเวลาทำงานที่ตัวเองได้ตามใจต้องการ ทำให้มีคนหันมาทำงานเป็นนายหน้าขายที่ดิน ขายบ้าน กันเยอะขึ้น
แต่ที่จริงแล้ว อาชีพนายหน้าก็ไม่ได้สบายหรือมีอิสระมากมายอย่างที่คิด เพราะมีทั้งนายหน้าอิสระ ซึ่งในที่นี้ขอรวมถึงนายหน้าที่ทำงานแบบพาร์ตไทม์ในเวลาว่างจากงานประจำและนายหน้าที่ทำงานแบบเต็มเวลาแต่ไม่ได้สังกัดองค์กรใดๆ และนายหน้าสังกัดบริษัท ที่ต้องอยู่ในกฎระเบียบเหมือนพนักงานบริษัททั่วไป ซึ่งไม่ว่าจะเลือกแบบไหนก็จะต้องเจอกับข้อดี-ข้อเสีย ที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้
ข้อดี-ข้อเสีย ของงานนายหน้าอสังหาฯ อิสระ
ข้อดี
- มีอิสระในการทำงาน: สามารถบริหารจัดการได้ตามใจทั้งเวลาและรูปแบบการทำงาน ไม่มีกฎระเบียบใดๆ ของบริษัทไหนมาผูกมัด ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของตัวเองทั้งหมด สามารถแต่งตัวแบบไหน ทำงานเมื่อไหร่ และเลือกใช้วิธีไหนก็ได้ในการทำงานเพื่อให้ขายได้
- ไม่มีเป้ายอดขายมากดดัน: หลายๆ คนเลือกที่จะมาเป็นนายหน้าอิสระแทนการเป็นนายหน้าสังกัดบริษัทเพราะไม่ชอบการโดนกดดันจากเป้ายอดขายที่บริษัทกำหนดไว้ในแต่ละปี หรือแต่ละไตรมาส ทำให้รู้สึกผ่อนคลายกว่า ไม่เครียด และไม่ต้องแข่งขันกับใคร
- ได้รับคอมมิชชันเต็มๆ: แรงจูงใจสำคัญของการทำงานนายหน้าอสังหาฯ อิสระ ก็คือค่าคอมมิชชันที่ไม่ต้องแบ่งกับใคร เริ่มต้นที่ 3% ขึ้นไป แทนที่จะต้องแบ่งครึ่งกับบริษัทที่ประมาณ 1.5% หากอยู่ในสังกัด เมื่อได้รับค่าคอมมิชชันเยอะๆ ก็เป็นกำลังใจที่อยากทำงานตรงนี้มากขึ้น
ข้อเสีย
- ความน่าเชื่อถือต่ำ: บางครั้งการที่นายหน้าอิสระเข้าไปนำเสนออสังหาฯ ที่มีมูลค่าสูงๆ อาจทำให้ลูกค้าไม่มั่นใจในความน่าเชื่อถือ และทำให้ยากที่จะปิดการขายได้
- ต้องโฆษณาตัวเอง: การเป็นนายหน้าอิสระทำให้ไม่มีแบรนด์อะไรมาสนับสนุนให้เป็นที่รู้จัก ดังนั้นนายหน้าอิสระจึงต้องหมั่นโฆษณาตัวเอง สร้างตัวตนขึ้นมาในวงการทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์ และสร้างคอนเน็กชันให้ได้มากที่สุด
- ต้องทำทุกอย่างด้วยตัวเอง: แน่นอนว่าการที่ไม่มีทีมงานมาคอยช่วยเหลือทำให้ภาระหน้าที่ทุกอย่างตกเป็นของนายหน้าอิสระแค่คนเดียว จึงต้องทำสิ่งต่อไปนี้เองทั้งหมด
- ต้องหาความรู้ เข้ารับการฝึกอบรม และลองผิดลองถูกเอง ซึ่งทำให้หลายคนอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะเริ่มเข้าใจและจับทางได้ว่าควรทำงานอย่างไร
- ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ติดต่อ และทำการตลาดทั้งหมดเอง
- ต้องทำงานเอกสาร และเตรียมข้อมูลทุกอย่างด้วยตัวเอง เพราะไม่มีทีมธุรการคอยช่วยจัดการเอกสารให้
- ต้องรับมือกับปัญหาต่างๆ ด้วยตัวเอง ไม่มีทีมคอยช่วยเหลือ หรือที่ปรึกษา ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกโดดเดี่ยวเพราะไม่รู้จะหันไปพึ่งใครเวลาเกิดปัญหา

ข้อดี-ข้อเสีย ของการเป็นนายหน้าอสังหาฯ สังกัดบริษัท
ข้อดี
- มีทรัพย์พร้อมให้ขายอยู่แล้ว: ข้อดีหลักๆ ที่หลายคนอยากเป็นนายหน้าสังกัดบริษัทก็คือการมีทรัพย์มากมายรอให้ขายอยู่แล้ว ไม่ต้องเหนื่อยออกไปติดต่อหาทรัพย์มาขายเองให้วุ่นวาย เหมาะสำหรับคนที่ไม่อยากทำ listing ด้วยตัวเอง
- มีความน่าเชื่อถือสูง: การเป็นนายหน้ามีสังกัดทำให้บางครั้งการขายโครงการใหญ่ๆ มีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น เนื่องจากดูน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้า หากมีแบรนด์ที่ดีก็ยิ่งทำให้เกิดความน่าเชื่อถือมากขึ้น
- เน้นงานขายเป็นหลัก: หน้าที่หลักของนายหน้าที่สังกัดบริษัทคือการขายให้ได้ งานเอกสารต่างๆ จึงมักมีทีมงานคอยช่วยเตรียมให้ ไม่ต้องทำเองหมดทุกอย่าง สามารถโฟกัสกับงานขายได้เต็มที่
- ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด: บริษัทมักออกค่าใช้จ่ายในการทำงานให้บางส่วน เช่น ค่าน้ำมันรถ ค่าลงโฆษณา เป็นต้น จึงช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินได้ไม่มากก็น้อย
- มีการฝึกอบรมให้ฟรี: เมื่อแรกเข้าไปทำงานในองค์กร นายหน้าเหล่านี้จะได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้นเพื่อให้พร้อมทำงานมากที่สุด ทั้งยังมีการจัดอบรมอย่างสม่ำเสมอ แลกเปลี่ยนความรู้กันภายในทีมเพื่อให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง
- มีที่ปรึกษา: การทำงานในองค์กรทำให้มีพี่เลี้ยง และมีทีมสนับสนุนคอยช่วยเหลือเมื่อเกิดปัญหาหรือข้อพิพาทเกิดขึ้นระหว่างการเจรจาหรือทำสัญญาซื้อขาย จึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นตามลำพัง
ข้อเสีย
- ต้องแบ่งรายได้ค่าคอมมิชชันกับบริษัท: ข้อเสียหลักๆ ของการเป็นนายหน้ามีสังกัดคือการต้องยอมแบ่งรายได้กับบริษัทคนละครึ่ง ทำให้นายหน้าหลายคนรู้สึกว่าไม่ค่อยมีแรงจูงใจในการขายมากนัก
- ต้องทำยอดขายได้ตามเป้า: แน่นอนว่าการทำงานภายใต้องค์กรย่อมมีการวัดผล มี KPI มีการตั้งเป้ายอดขาย ทำให้มีความกดดันมากกว่าการทำงานอิสระ ซึ่งบางคนอาจรับได้ แต่หลายคนก็ไม่ชอบ
- ต้องอยู่ในกฎระเบียบที่เคร่งครัดของบริษัท: ไม่ว่าจะเป็นองค์กรใดก็ตาม แต่ละที่ย่อมมีกฎระเบียบแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งกาย เวลาเข้างาน รูปแบบการทำงาน และข้อห้ามต่างๆ ที่อาจทำให้บางคนรู้สึกอึดอัดได้
นายหน้าอิสระ กับ นายหน้าสังกัดบริษัท ควรเลือกอย่างไหน
อ่านมาถึงตรงนี้ คุณอาจยังสงสัยว่า สรุปแล้วงานนายหน้าอสังหาฯ แบบไหนดีกว่า น่าทำกว่ากัน จริงๆ แล้วนายหน้าทั้งสองประเภทสามารถประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน ไม่มีอะไรดีกว่า คุณควรเลือกแบบที่ชอบและเหมาะกับเป้าหมายในชีวิตของคุณมากที่สุด แต่ถ้าคุณต้องการเป็นนายหน้าอิสระเพื่อคอมมิชชันที่สูงกว่า และอยากกำหนดตารางเวลาของตัวเองได้ ก็ต้องมีความพยายามในการฝึกฝนทักษะต่างๆ และบริหารจัดการเวลาและงานทุกอย่างให้ดี รวมถึงเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสม ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเติบโตได้เร็วยิ่งขึ้น
ทำงานง่าย ปิดการขายได้ไว ด้วย Property Flow
ไม่ว่านายหน้าอิสระหรือมีสังกัด นายหน้าที่ดิน หรือนายหน้าขายบ้าน ก็สามารถใช้ Property Flow เป็นเครื่องมือเพื่อช่วยให้ทำงานง่าย ปิดการขายได้ไว และประสบความสำเร็จได้ เพราะมีฟีเจอร์ดีๆ ทั้งการบริหารจัดการทรัพย์ การบริหารจัดการรายชื่อลูกค้า การทำการตลาดดิจิทัล การลงโฆษณาขายบ้าน ที่ครบครันและทำงานได้อย่างทรงพลัง หากสนใจเพียงติดต่อเรา ทีมงานของเราพร้อมให้คำปรึกษาและทดลองใช้ฟรี