งานอีเวนต์ในหัวข้อ “อนาคตของ PropTech กับธุรกิจอสังหาฯ ไทย” ที่จัดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 เป็นการรวมตัวกันของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และสตาร์ตอัปด้าน PropTech ที่โดดเด่น เพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดว่าภาพรวมอสังหาฯ ของไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคต

งานอีเวนต์ในหัวข้อ “อนาคตของ PropTech กับธุรกิจอสังหาฯ ไทย” ที่จัดเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2565 เป็นการรวมตัวกันของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และสตาร์ตอัปด้าน PropTech ที่โดดเด่น เพื่อพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดว่าภาพรวมอสังหาฯ ของไทยจะเป็นอย่างไรในอนาคต

Jostein Aksnes, CEO ของ Seven Peaks Software และ Property Flow ได้เชิญคนในวงการอสังหาฯ ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับ PropTech มาพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดังนี้ 

  • Mario Peng, CEO และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง PropertyScout
  • Brennan Campbell,  CEO และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง FazWaz
  • Ekapak Nirapathpongporn, CEO และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Fraction 
  • Fredrik Bergman, CEO และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Proptech Farm

โดยอีเวนต์นี้ได้รับการสนับสนุนจาก PropertyScout และ FazWaz พาร์ตเนอร์ของเรา

คุณ Jostein ได้เริ่มต้นด้วยการพูดถึงภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทย ว่าเขาทำธุรกิจเกี่ยวกับเว็บไซต์ลงประกาศอสังหาฯ มาก่อน แล้วพบว่าบรรดาภาคธุรกิจในตลาดอสังหาฯ ของไทยมีการปรับตัวนำเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่าง PropTech เข้ามาใช้ช้ากว่าเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมอื่น เพราะพวกเขาคิดว่าการลงทุนในเทคโนโลยีด้านนี้จะได้ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มค่าเท่าไรนัก

โดยคุณ Jostein มีเป้าหมายที่จะผลักดันให้บรรดาธุรกิจอสังหาฯ พัฒนาธุรกิจไปสู่ความเป็นดิจิทัล

มากขึ้น ด้วยการนำสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ไปสู่ช่องทางออนไลน์ รวมถึงทำการตลาดอสังหาฯ ผ่านเว็บไซต์ลงประกาศฯ ที่มีอยู่มากมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น สุดท้ายนี้เขาได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะช่วยให้นักพัฒนาอสังหาฯ รวมถึงผู้ประกอบการด้านนี้ สามารถปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการขายได้ดียิ่งขึ้นด้วยการใช้เครื่องมือจัดการลูกค้าสัมพันธ์ CRM 

PropTech คืออะไร ทำไมถึงควรใช้สิ่งนี้เพื่อพัฒนาธุรกิจของคุณ?

คุณ Mario ได้อธิบายว่านายหน้ามักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันไปกับการค้นหาและโพสต์ลิสติ้งของทรัพย์ลงบนเว็บประกาศซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ส่งผลถึงการที่พวกเขาไม่สามารถโฟกัสกับการดูแลลูกค้าได้อย่างเต็มที่ นั่นคือสาเหตุว่าทำไมเทคโนโลยีอย่าง PropTech จึงเข้ามาช่วยจัดการเรื่องที่ต้องเสียเวลาจำนวนมากให้ลดน้อยลงเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือกี่นาที เพื่อที่นายหน้าจะได้ดูแลลูกค้าและให้ความใส่ใจได้มากขึ้น

ทางด้านคุณ Brennan ได้พูดถึงแนวคิดของ leadtech ว่าโดยปกติแล้วธุรกิจอสังหาฯ จะเรียกชื่อและเบอร์ติดต่อของลูกค้ากันว่า “ลีด” ซึ่งพอการค้นหาทรัพย์ทั้งหลายผ่านทางออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น ก็จะช่วยให้นายหน้าสามารถเข้าถึงลีดเหล่านั้นเป็นวงกว้าง

ได้ด้วยเวลาอันรวดเร็ว

โดยนายหน้าสามารถกำหนดลักษณะของลีดที่พวกเขากำลังค้นหาอยู่ เพื่อทำความเข้าใจว่าคนเหล่านั้นคือใครและกำลังต้องการจะซื้ออสังหาฯ แบบไหนอยู่ ส่งผลให้นายหน้าสามารถหาทรัพย์มาเสนอได้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และนำไปสู่การปิดการขายได้เพิ่มขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญคนสุดท้ายที่ได้มาแชร์ประสบการณ์ดีๆ คือ คุณ Fredrik ที่ได้อธิบายไว้อย่างน่าสนใจว่า โดยปกติแล้วลีดมักมาจากช่องทางออนไลน์แทบทั้งหมด นั่นหมายความว่าถ้าโพสต์อสังหาฯ ของคุณมีคนเข้ามาดูเยอะ คุณก็มีโอกาสที่จะเข้าถึงผู้ซื้อหรือผู้ขายอสังหาฯ ได้มากขึ้น และนี่เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากสำหรับการขยายธุรกิจ เพราะจะช่วยให้คุณปิดการขายและมีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

หลังโควิด-19 จบ = ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านธุรกิจอสังหาฯ สู่ความเป็นดิจิทัล

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ถือว่าเป็นตัวกระตุ้นสำคัญที่ผลักดันให้ผู้บริโภคค้นหาสิ่งที่พวกเขาต้องการผ่านทางอีคอมเมิร์ซเพิ่มมากขึ้น เช่นเดียวกับบรรดาบริษัทที่มองเห็นถึงโอกาสที่จะเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเป็นดิจิทัล ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรื่องล้ำยุคอย่าง Virtual Reality และ Meraverse เป็นอะไรที่ได้รับความนิยม จนหลายคนตั้งคำถามว่าสิ่งเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญเหนือตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบเดิมในเร็วๆ นี้หรือไม่ 

ข้อมูลที่น่าสนใจจาก PropertyScout เปิดเผยว่ากว่า 20% ของจำนวนธุรกิจที่เกิดขึ้นในปี 2022 เป็นการดูอสังหาฯ แบบเสมือนจริง (Virtual Reality) เพราะลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายและปลอดภัยเวลาที่ได้ดูทรัพย์ที่ต้องการในระหว่างที่โควิด-19 กำลังแพร่ระบาด ทั้งนี้ ก็ยังมีบางคนที่ยืนยันจะมาดูสถานที่จริงอยู่พอสมควร

สำหรับอสังหาริมทรัพย์กับ Metaverse นั้น คุณ Mario เชื่อว่าอสังหาฯ จริงๆ ก็ยังมีความต้องการเป็นจำนวนมากเช่นเดิม เพราะผู้คนต้องอาศัยอยู่และทำงานในทุกๆ วัน ส่วน Metaverse นั้นเป็นกระแสที่หลายๆ บริษัทหันมาให้ความสนใจ แต่ในมุมของผู้บริโภคทั่วไปมองว่ามีโอกาสน้อยมากที่พวกเขาจะซื้อที่ดิน บ้าน หรืออะไรก็ตามในโลกเสมือนอย่างเมตาเวิร์ส

คุณ Fredrik กล่าวได้อย่างน่าสนใจว่า “ผมเพิ่งซื้ออพาร์ตเมนต์ในสเปนโดยที่ไม่ได้เข้าไปดูสถานที่จริงเลย” เขาพูดว่าหากคุณมีความไว้ใจนายหน้าเกี่ยวกับข้อมูลโดยละเอียดของอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ มากพอ คุณจะสามารถตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ผ่านทางออนไลน์ได้ นี่คือเป้าหมายที่เราหวังว่าจะเกิดขึ้นในอีก 5-10 ปีต่อจากนี้ แน่นอนว่าในวันนั้นผู้คนอาจซื้ออสังหาฯ ที่ไหนบนโลกก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องไปดูทรัพย์ด้วยตัวเอง


ทำให้ลูกค้ามองเห็นคุณมากขึ้น

ด้วยการเริ่มต้นปรับปรุงสิ่งต่างๆ ให้กับเว็บไซต์อสังหาฯ ของคุณวันนี้


เพราะอะไรการเพิ่มทุนสำหรับสตาร์ตอัปในปัจจุบันถึงทำได้ยาก?

คุณ Jostein กล่าวว่า “เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ส่งผลโดยตรงต่อสตาร์ตอัปที่ต่างพากันหาเงินทุนมาพยุงธุรกิจกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากทุกคนมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งคุณ Fredrick จะเป็นคนมาเล่าถึงวิธีการพาธุรกิจสตาร์ตอัปให้อยู่รอดท่ามกลางปัญหามากมายที่กำลังจะถาโถมเข้ามา”

“มันเป็นเรื่องยากมากที่จะระดมเงินทุนให้กับสตาร์ตอัป ยกเว้นเสียแต่ว่าคุณจะมีโมเดลธุรกิจที่ดีและสามารถใช้หาผลกำไรได้จริงๆ” คุณ Fredrick กล่าวไว้

มาถึงฝั่งคุณ Ekapak ที่ได้บอกเล่าถึงประสบการณ์ที่ยากลำบากของตัวเองที่ผ่านมา ว่าเขาต้องทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจรวมถึงเวลาเป็นจำนวนมากในการระดมเงินทุนเพื่อสร้างสตาร์ตอัปด้วยตัวของเขาเอง แน่นอนว่าตอนนี้การหาเงินนั้นอาจทำได้ยากกว่าเมื่อก่อน แต่ถ้าธุรกิจของคุณมีคุณค่าและสามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีด้วยโมเดลธุรกิจที่เป็นที่ต้องการของตลาด คุณก็จะสามารถหาเงินทุนมาใช้พัฒนาธุรกิจและอยู่รอดต่อไปได้

ทางด้านคุณ Brennan ยังคงมองโลกในแง่ดีว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยยังส่งผลเชิงบวกต่อธุรกิจของเขา นั่นก็เพราะเขามีความมั่นใจว่าเทคโนโลยีที่ได้คิดค้นขึ้นจะสามารถสร้างประโยชน์มากมายให้กับบรรดามืออาชีพที่ทำงานด้านอสังหาฯ เป็นจำนวนมาก

ปิดท้ายด้วยความเห็นของคุณ Mario ที่กล่าวเสริมว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในไทยจำเป็นต้องอาศัยภาพรวมของเศรษฐกิจไทยที่อยู่ในแดนบวกเพื่อรักษาการเติบโตเอาไว้ โดยทางฝั่ง
PropertyScout ได้ใช้วิธีต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำด้วยการเพิ่มเงินทุนตลอดจนลงทุนในสิ่งต่างๆ ให้มากขึ้นกว่าเดิม

ช่วงถามตอบของผู้เข้าร่วมงาน

ทันทีที่งานใกล้จะจบ ก็ได้มีผู้เข้าร่วมงานได้ถามคำถามสองสามข้อ หนึ่งในคำถามที่น่าสนใจที่สุดก็คือ “เว็บประกาศลงอสังหาฯ จะเข้ามาแทนที่โบรกเกอร์หรือนายหน้าหรือไม่?”

คุณ Jostein ได้ตอบคำถามนี้ว่า “ส่วนตัวแล้วผมเห็นตรงกันข้ามกับที่คุณถามมา นั่นก็เพราะว่าธุรกิจอสังหาฯ ไม่ได้มีกระบวนทั้งหมดที่เกิดขึ้นผ่านทางออนไลน์ 100% แต่เรายังต้องการโบรกเกอร์และนายหน้าที่เข้ามาติดต่อประสานงานและปิดการขาย ตามสมมติฐานโบรกเกอร์จะสามารถสร้างรายได้ภายในหนึ่งเดือนได้มากกว่าที่เว็บลงประกาศอสังหาฯ ทำได้ในหนึ่งปีเสียอีก”

บทสรุป

PropTech ยังคงเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมใหม่ที่เราคาดหวังว่าจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปี 2022 และนับต่อไปอีกเรื่อยๆ เนื่องจากผู้คนทั่วโลกเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยียุคใหม่นี้มากขึ้น

อาจพูดได้ว่า PropTech ได้เข้ามาเป็นระบบนิเวศที่เชื่อมโยงนักลงทุน ผู้ให้กู้ และผู้จัดการทรัพย์เข้าด้วยกัน โดยมีส่วนช่วยให้เกิดกระบวนการทำธุรกิจที่เป็นอัตโนมัติเพิ่มมากขึ้น ทั้งยังช่วยให้ทุกสิ่งมีความโปร่งใสและตรวจสอบได้ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการช่วยในการตัดสินใจของนักลงทุนในอุตสาหกรรมนี้

ปัจจุบันการตัดสินใจในเรื่องธุรกิจที่มีความหลายหลากสามารถทำได้รวดเร็วขึ้นมาก นั่นก็เพราะว่ามีการใช้งาน PropTech เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกคนที่เกี่ยวกับข้องกับวงการอสังหาริมทรัพย์สามารถหาข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก

เพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะพบเห็นธุรกิจอสังหาฯ ของคุณทางออนไลน์มากขึ้น

ปรึกษาเราวันนี้เพื่อค้นหาวิธีที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต