วิธีทำ SEO ง่ายๆ สำหรับนายหน้าอสังหาฯ

ก่อนที่เราจะลงลึกไปถึงการทำ SEO (Search Engine Optimization) ให้มีประสิทธิภาพสำหรับนายหน้าอสังหาฯ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าว่า SEO สำหรับนายหน้าอสังหาฯ คืออะไร และมีข้อได้เปรียบอย่างไรในยุคดิจิทัล

ความหมายของ SEO สำหรับนายหน้าอสังหาฯ

การทำ SEO ที่ประสบความสำเร็จสำหรับอสังหาริมทรัพย์นั้นคือการที่เว็บไซต์ติดอันดับต้นๆ ของ search engine เมื่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายค้นหานายหน้าอสังหาฯ ที่จะช่วยพวกเขาซื้อขายอสังหาฯ ได้ สิ่งที่สำคัญมากคือการนึกถึงว่าถ้าตัวเองเป็นลูกค้าจะทำอย่างไร เพื่อทำความเข้าใจกับความต้องการซื้อขายทรัพย์ของพวกเขามากขึ้น 

รู้หรือไม่ว่า 44% ของผู้ซื้อบ้านตรงดิ่งเข้าหา Google เพื่อค้นหาตัวเลือกในการซื้อบ้านในทันที

เพราะฉะนั้นแล้ว นายหน้าอสังหาฯ ควรมีความรู้ความเข้าใจและนำหลักการของ SEO ไปใช้ เมื่อกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมีวัตถุประสงค์ในการเสิร์ชหาบ้านทางช่องทางออนไลน์สูงขึ้น

นี่คือสิ่งที่ SEO จะทำให้นายหน้าอสังหาฯ ทั้งหลายได้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อตอบรับความต้องการของการค้นหาทางออนไลน์ที่มากขึ้น

SEO สำหรับนายหน้าอสังหาฯ

และความสำคัญในทุกวันนี้

ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์นั้น นายหน้าต้องลงแรงกับทำเลอย่างมาก ในด้าน SEO แล้ว นั่นหมายความว่านายหน้าควรโฟกัสไปที่การทำ local SEO เป็นส่วนใหญ่

Local SEO คือการทำคอนเทนต์และหน้าเว็บที่เน้นไปทางด้านทำเลต่างๆ เพื่อเพิ่มความเกี่ยวข้องในพื้นที่หรือเมืองที่พวกเขาดำเนินกิจการอยู่

Local search ทำงานโดยที่ Google จะรับรู้ถึงพื้นที่ใกล้เคียงผู้ค้นหา (จากที่อยู่ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต) เพื่อให้ Google สามารถเพิ่มความเกี่ยวข้องของผลการค้นหาให้จำกัดอยู่ในบริเวณที่ผู้ค้นหาอาศัยอยู่ได้

แน่นอนว่า Google และ search engine รายใหญ่ทั่วไปอยากมอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องและมีประโยชน์กับตัวผู้ใช้เพื่อให้ตรงกับคำที่ใช้ค้นหา ในกรณีของ SEO สำหรับนายหน้าอสังหาฯ นั้น มันหมายความถึงการมอบผลการค้นหาตามพื้นที่ที่ตรงกันกับคำถามและข่าวสารต่างๆ ได้

เพื่อการทำ local SEO ที่มีประสิทธิภาพ คุณสามารถสร้างคอนเทนต์ที่จำกัดอยู่ในเมืองหรือพื้นที่หนึ่งในบล็อกของคุณดังต่อไปนี้

• แลนด์มาร์ก สถานที่ท่องเที่ยว หรือพื้นที่ที่น่าดึงดูดใจ

• ทีมกีฬา (อย่างเช่น สโมสรฟุตบอล ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หากคุณอยู่ในกรุงเทพมหานครฯ)

• ร้านอาหารหรือห้างสรรพสินค้า

• โรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือสมาคมต่างๆ

วิธีอื่นๆ ในการทำ local SEO ประกอบไปด้วยการใส่ NAP (ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์), Google My Business, คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องตามพื้นที่, รีวิวและเรตติ้งบน Google, การแชร์ทางโซเชียลมีเดีย และอื่นๆ

หากสนใจ ลองอ่านไกด์ local SEO นี้ เพื่อเข้าใจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับเคล็ดลับการทำ local SEO ที่ประสบความสำเร็จได้

คอนเทนต์

“คอนเทนต์ไม่ใช่ราชา แต่คืออาณาจักร” – Lee Odden

ส่วนแรกของกลยุทธ์ SEO ที่ดีสำหรับอสังหาริมทรัพย์คือการทำคอนเทนต์ให้หลากหลาย ในขณะที่ยังอยู่ในหัวข้อเดียวกัน เพราะยิ่งทำคอนเทนต์มากเท่าไร โอกาสที่จะใส่คีย์เวิร์ดที่คุณอยากจะแรงก์ก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น

ตัวอย่างที่ดีคือการใช้คีย์เวิร์ดที่คล้ายกัน เช่นคำว่า “บ้าน” กับ “ที่พัก” หรือ “เช่า” กับ “ให้เช่า” เพื่อที่การค้นหาคำทั้งสองจะได้มีปริมาณการค้นหา (search volume)ที่มากกว่า ด้วยผลการค้นหาที่ต่างกัน ซึ่งจะทำให้คุณมีคีย์เวิร์ดในหัวข้อเดียวกันได้มากขึ้น

เมื่อต้องทำวิจัยคีย์เวิร์ดสำหรับ SEO อสังหาฯ คุณควรมองไปที่เสิร์ชวอลูมและความยากในการแข่งขันของคีย์เวิร์ดนั้นๆ ด้วย

คีย์เวิร์ดและคำค้นที่สั้นเกินไปอาจกว้างและมีการแข่งขันสูง ซึ่งจะทำให้โอกาสที่จะแรงก์บน Google เป็นไปได้ยาก เมื่อมีคอนเทนต์ที่คล้ายกันในเว็บไซต์อื่น

คำค้นสั้นๆ นี้เราเรียกกันว่า short tail keyword ประกอบไปด้วยคีย์เวิร์ดจำนวนน้อยกว่า 3 คำ ที่มักจะเป็นหัวข้อที่กว้างมากๆ อย่างเช่นคำว่า “เช่าคอนโด”, “ซื้อบ้าน”, “นายหน้าเช่าบ้าน” และอื่นๆ

คีย์เวิร์ดประเภท short tail จะมีโอกาสแรงก์ได้หากเป็นธุรกิจใหญ่ๆ มีเว็บไซต์ที่มีความเชื่อถือสูง แต่สำหรับธุรกิจเล็กๆ และนายหน้าอสังหาฯ แล้ว การทำคีย์เวิร์ด short tail ให้แรงก์อยู่อันดับต้นๆ นั้นเป็นไปได้ยากมาก

เป็นที่รู้กันดีว่าคีย์เวิร์ด short tail นั้นมี conversion น้อยกว่าเพราะเป็นหัวข้อที่กว้างมากเกินไป คนส่วนใหญ่ที่ค้นหาข้อมูลด้วยคีย์เวิร์ด short tail นั้นมักอยากอ่านรีวิว ข่าว หรือหน้าวิกิพีเดียมากกว่าที่จะอยากซื้ออสังหาฯ

ถ้าคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือเป็นนายหน้าอสังหาฯ เราขอแนะนำว่าคุณควรโฟกัสกับการหา long tail keyword มาใช้แทน

Long tail keyword เป็นวลีขนาดยาวที่ประกอบด้วย 3-5 คีย์เวิร์ด โดย long tail keyword จะมีความเฉพาะเจาะจงกว่าและตรงกับความต้องการของคนที่ค้นหามากกว่า จึงมีโอกาสสูงกว่าที่จะเกิด conversion นอกจากนี้ long tail keyword ยังมีการแข่งขันน้อยกว่าเพราะใช้จำนวนคีย์เวิร์ดเยอะ แต่ก็ยังโอกาสได้มีปริมาณการค้นหาที่สูงอยู่

ตัวอย่าง long tail keyword ได้แก่ “ซื้อคอนโด 1 ห้องนอน” “ขายบ้านในกรุงเทพฯ” “เช่าคอนโดในกรุงเทพฯ ย่านสุขุมวิท” เป็นต้น

จากข้อมูลของ MOZ ของการค้นหาจากทั่วโลกใช้ long tail keyword มากถึง 70% เลยทีเดียว! ซึ่งเป็นเพราะว่าผู้บริโภคและผู้ค้นหาเหล่านี้ต้องการค้นหาสิ่งที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น จึงต้องการผลการค้นหาที่มีความเฉพาะเจาะจงตามมา

การใส่คีย์เวิร์ดที่คุณอยากแรงค์ในคอนเทนต์เป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือต้องระวังอย่าใส่เยอะเกินไปด้วย

แนวทางที่เราอยากแนะนำก็คือการโปรยคีย์เวิร์ดลงไปในตำแหน่งของหัวข้อ บางประโยคในเนื้อหา ชื่อบทความ meta description และ URL โดยทำให้คีย์เวิร์ดที่ต้องการกระจายอยู่ในคอนเทนต์ แทนที่จะอัดลงไปจนล้น อัตราส่วนที่ดีคือ มีคีย์เวิร์ดอยู่ประมาณ 1 – 2% ของเนื้อหาทั้งหมดในโพสต์นั้นของบล็อก

หากคุณใช้คีย์เวิร์ดมากเกิน 2% Google จะเริ่มสังเกตเห็นและลงโทษคุณที่ใช้คีย์เวิร์ดเดิมซ้ำๆ มากเกินไป นอกจากนี้ยังอ่านแล้วไม่เป็นธรรมชาติอีกด้วย

Google ต้องการให้คอนเทนต์บอกข้อมูลที่เต็มไปด้วยมีประโยชน์ และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับคนอ่าน สรุปก็คือ การเขียนคอนเทนต์เพื่อ SEO นั้นต้องนึกถึงผู้ใช้ไว้ก่อนเป็นอันดับแรก

นี่คือเคล็ดลับเพิ่มเติมในการสร้างคอนเทนต์ที่มีความเกี่ยวข้องและมีคุณภาพเพื่อการทำ SEO สำหรับอสังหาฯ

วิเคราะห์ว่าความต้องการของลูกค้าคืออะไรและทำไมพวกเขาถึงต้องมาซื้อหรือเช่ากับคุณ สิ่งนี้จะช่วยให้คุณได้รับรู้ความคิดเห็นจากมุมมองของลูกค้าซึ่งจะช่วยให้คุณสร้างคอนเทนต์ได้ดีขึ้น

คุณควรสร้างหน้า landing page ด้วยโพสต์บล็อกที่ครอบคลุมหัวข้อที่มีความเกี่ยวข้อง ให้ข้อมูลได้ดี และมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน คอนเทนต์ที่เขียนควรมีความยาวประมาณ 1,000 – 2,000 คำ พร้อมด้วยเนื้อหาที่ให้ข้อมูลเชิงลึกในหัวข้อนั้นๆ หมายความว่าคุณจะต้องลงลึกในรายละเอียดและแบ่งหัวข้อออกเป็นหัวข้อย่อย

สร้างเนื้อหาในบล็อกและหน้า landing page ขึ้นมาเพื่อช่วยกลุ่มเป้าหมายของคุณสามารถเอาชนะปัญหาบางอย่างได้จากสิ่งที่พวกเขาค้นหาไปใน search engine

คอนเทนต์ที่มีคุณภาพมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการทำ SEO สำหรับอสังหาฯ แต่จำนวนของคอนเทนต์ก็สำคัญเช่นกัน เพื่อให้คุณสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายที่กว้างขึ้นได้จากคีย์เวิร์ดอันเฉพาะเจาะจงที่พวกเขาเลือกใช้ค้นหาสิ่งที่ต้องการนั่นเอง สิ่งสำคัญในการทำ SEO คือการรักษาสมดุลระหว่างคุณภาพและปริมาณของคอนเทนต์ให้พอดีกัน

ตัวตนบนโลกออนไลน์

ความสำคัญของการสร้างคอนเทนต์ออนไลน์

การแชร์หรือเขียนคอนเทนต์อสังหาฯ ในรูปแบบบล็อกไปบนแพลตฟอร์มที่เป็นที่รู้จักกันดีในวงการอสังหาฯ จะค่อยๆ ทำให้ผู้คนสังเกตเห็นความเชี่ยวชาญของคุณ และทำให้แบรนด์ของคุณดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

การทำ local SEO และ SEO โดยทั่วไปนั้น ขั้นตอนสำคัญในการนำกลยุทธ์ SEO ไปปรับใช้สำหรับนายหน้าอสังหาฯ คือการทำ link building จากการได้รับ backlink ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจและมีคุณภาพ

Backlink คือการโหวตแสดงความไว้วางใจจากเว็บไซต์อื่นๆ ซึ่ง Google มอง backlink เหล่านี้ว่าเป็นเหมือนสัญญาณแห่งความไว้วางใจที่จะช่วยโปรโมตเว็บไซต์ของคุณและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับคอนเทนต์บล็อกของคุณได้

วิธีการที่ได้รับความนิยมในการได้รับ backlink ที่มีคุณภาพคือการมีตัวตนในสื่อประชาสัมพันธ์ออนไลน์ เป็นนักเขียนบล็อกรับเชิญ สร้างคอนเทนต์คุณภาพอย่างสม่ำเสมอที่คนอยากแชร์ มีตัวตนในเว็บไดเรกทอรีอสังหาฯ (ซึ่งเราจะพูดถึงประเด็นนี้ต่อไป) และอื่นๆ 

การสร้างตัวตนในเว็บไดเรกทอรีอสังหาฯ มีความสำคัญเพราะเว็บไซต์เหล่านี้สามารถสร้าง backlink หรืออ้างอิงข้อมูลถึงหน้า landing page หรือคอนเทนต์ในบล็อกของคุณได้ ช่วยในการทำ link building ได้ดี

เว็บไดเรกทอรียังคงเป็นแหล่งข้อมูลที่ยอดเยี่ยมในยุคนี้เพราะผู้ใช้ต้องการหาข้อมูลจำนวนมากจากเว็บเหล่านี้ การที่ธุรกิจของคุณมีตัวตนบนเว็บไดเรกทอรีอสังหาฯ ไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของคุณด้วยการกล่าวอ้างอิงและ backlink เท่านั้น แต่ยังเป็นช่องทางเพิ่มเติมในการเพิ่มจำนวนลีดให้กับธุรกิจของคุณอีกด้วย

อีกเรื่องที่เราอยากแนะนำในการทำ SEO ก็คือการไปคอมเมนต์ในบล็อกอสังหาฯ อื่นๆ การทำแบบนี้จะช่วยนำ traffic จากบล็อกอื่นมายังบล็อกของคุณเอง ซึ่งจะได้ยิ่งได้ผลดีหากเป็นบล็อกที่มีโปรไฟล์ดี ได้รับการยอมรับในแวดวงอสังหาฯ

Google จะให้ traffic เพิ่มเติมที่มาจาก SEO ในจำนวนที่สมดุลกับปริมาณของ traffic จากแหล่งอื่นๆ ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกัน

ลองไปคอมเมนต์ในบล็อกอสังหาฯ หรือยึดพื้นที่ฟรีในเว็บไดเรกทอรีตั้งแต่วันนี้ เมื่อคุณมีตัวตนบนโลกออนไลน์มากขึ้น รวมถึงแชร์เว็บไซต์และคอนเทนต์บล็อกผ่านช่องทางออนไลน์ รับรองได้ว่าคุณจะได้ traffic จากการอ้างอิง รวมถึง traffic เพิ่มเติมจากการทำ SEO มากขึ้น

การทำ technical SEO

การปรับให้เข้ากับมือถือ และเรื่องอื่นๆ

อุปกรณ์พกพายังคงเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานขององค์กรที่มีต่อผู้ซื้อและผู้เช่าอสังหาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานที่สนับสนุนแนวคิดนี้มาจากการทำวิจัยของ NAR ที่บอกว่า 72% ของผู้ซื้อบ้านใช้มือถือในการค้นหาข้อมูล โดยผู้ซื้ออายุน้อยมีแนวโน้มที่จะใช้สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์หลักมากขึ้นในอนาคต

สถิติที่คล้ายคลึงกันจาก Core Logic บอกว่า 58% ของผู้ซื้อบ้านวัยมิลเลนเนียลหาบ้านที่ต้องการเจอจากการใช้อุปกรณ์พกพา

คุณควรโฟกัสกับการตัดสินใจและพฤติกรรมของลูกค้า ธุรกิจต่างๆ จำเป็นต้องเช็กให้มั่นใจว่าเว็บไซต์ หน้า landing page และเนื้อคอนเทนต์บนบล็อกของพวกเขานั้นมีการปรับปรุงให้เหมาะกับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ แท็บเล็ต หรือเดสก์ท็อป เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดี โดยเฉพาะเมื่อ Google กำลังปรับมาใช้กฎที่เน้นมือถือเป็นหลักซึ่งจะทำให้คุณต้องให้ความสำคัญกับเว็บไซต์อสังหาฯ เวอร์ชันมือถือเป็นอันดับแรก

หลักในการปรับปรุงเว็บไซต์ในการแสดงผลบนมือถือเพื่อ SEO ก็คือ การทำให้ทุกอย่างดูเรียบง่ายเข้าไว้

แนะนำว่าคอนเทนต์บนหน้าเว็บไซต์ทุกหน้าควรใช้ responsive design ซึ่งจะปรับการแสดงผลให้พอดีกับหน้าจอทุกขนาดได้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นจอมือถือ คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป หรือแท็บเล็ต/iPad ก็ตาม

เช็กให้แน่ใจว่าผู้ใช้ทุกคนที่เข้ามาชมเว็บไซต์และอยู่บนหน้า landing page หรือบล็อกของคุณนั้นสามารถเข้าไปดูข้อมูลที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เพราะยิ่งผู้ใช้ต้องเสียเวลาหาสิ่งที่ต้องการในคอนเทนต์ของคุณมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้พวกเขาไปสู่เป้าหมายของคุณได้ราบรื่นน้อยลงเท่านั้น

ความเร็วในการโหลดหน้าเว็บสำหรับ landing page และคอนเทนต์ของบล็อกก็มีความสำคัญมากขึ้นเช่นกัน ถ้าผู้ชมจำเป็นต้องรอหน้าเว็บโหลดนานเกินไป พวกเขาก็มักจะออกจากเว็บไซต์ของคุณเพื่อไปยังเว็บไซต์อื่นที่โหลดเร็วกว่าแทน

เมื่อมีคนออกจากเว็บไซต์หลังจากที่เพิ่งเข้ามาดูแค่หน้า landing page มากขึ้น ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า bounce rate มากขึ้น การปรับหน้า landing page และคอนเทนต์บล็อกให้โหลดเร็วขึ้นทั้งในมือถือและเดสก์ท็อปคือหัวใจสำคัญในการลด bounce rate และช่วยรักษาลูกค้าที่อยู่ในหน้าเว็บไซต์ของคุณไว้ได้ ทำให้มีโอกาสที่พวกเขาจะเข้ามาสอบถาม หรือปิดการขายได้มากขึ้น

การปรับหน้า landing page หรือบล็อกให้โหลดเร็วขึ้นสามารถทำได้ด้วยการลดจำนวนโค้ดในหน้าเว็บของคุณลง เช่น ลบ CSS ที่ไม่จำเป็นหรือแอนิเมชันที่เขียนด้วย JavaScript ออกไป พร้อมทั้งปรับรูปภาพทั้งหมดที่ใช้ในหน้าเว็บด้วย เราแนะนำว่าการปรับรูปให้มีประสิทธิภาพดีที่สุดควรใช้ไฟล์ PNG หรือ JPEG ขนาด 50-500 กิโลไบต์ เพื่อให้คุณภาพไฟล์ยังคงมีความคมชัดอยู่

เราอยากให้คุณลองใช้เครื่องมือออนไลน์อย่าง Mobile-Friendly Test เพื่อให้ได้ข้อสรุปว่าคอนเทนต์บล็อกหรือหน้า landing page ของคุณผ่านการทดสอบไหม ทั้งยังได้รับรู้ปัญหาเกี่ยวกับการแสดงผลบนมือถือว่ามีอะไรที่ควรแก้ไขบ้าง

Responsive design, การใช้งานง่าย, การแสดงผลได้ดีบนมือถือ และความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ นั้นล้วนเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำ SEO เพราะในสมัยนี้ Google นำองค์ประกอบทางเทคนิคที่ว่ามาเป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาจัดอันดับเว็บไซต์ให้สูงขึ้นบนแพลตฟอร์มของพวกเขานั่นเอง

หากคุณอยากรู้เกี่ยวกับการทำ SEO เชิงเทคนิคและอยากติดตามอัปเดตเกี่ยวกับอัลกอริทึมของ Google ล่ะก็ ลองเข้าไปอ่านบล็อกนี้ได้

บทสรุป

การที่นายหน้าอสังหาฯ จะทำ SEO ให้สำเร็จได้นั้น เราแนะนำว่าคุณควรโฟกัสไปที่การทำ local SEO กับพื้นที่ใกล้เคียงก่อนเพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อคนในพื้นที่ค้นหาข้อมูลในการซื้อหรือเช่าบ้าน พวกเขาก็จะหาคุณเจอ

ส่วนการทำ on-page SEO นั้น คุณต้องสร้างคอนเทนต์เกี่ยวกับอสังหาฯ ที่มีเอกลักษณ์ มีประโยชน์ และมีรายละเอียดมากพอ โดยใส่คีย์เวิร์ดแบบ long tail ที่มาจากหัวข้อและข้อสงสัยเกี่ยวกับอสังหาฯ ที่มีคนค้นหามากลงไปด้วย

ในส่วนของ off-page SEO ให้เข้าไปสมัครเว็บไดเรกทอรีอสังหาฯ แล้วสร้างตัวตนอยู่ในนั้น รวมถึงการเขียนบล็อกของตัวเองขึ้นมาในเว็บไซต์อสังหาฯ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จุดประสงค์ของกลยุทธ์ในการทำ off-page SEO แบบนี้ก็คือทำให้มีการอ้างอิงถึงและ backlink ที่เชื่อมต่อมายังเว็บไซต์ของคุณ ทำให้เว็บมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในวงการอสังหาฯ ด้วยกัน

ประเด็นสุดท้ายก็คือการทำ technical SEO เช็กให้แน่ใจว่าหน้า landing page และคอนเทนต์บล็อกของคุณโหลดเร็วพอ มอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้ และแสดงผลได้ดีบนมือถือด้วย หากคุณนำเรื่องเหล่านี้ไปใช้ในกลยุทธ์การทำ SEO ล่ะก็ คุณก็จะกลายเป็นนายหน้าอสังหาฯ ที่ประสบความสำเร็จในการทำ SEO ได้ในที่สุด