ปัจจุบันคนในแวดวงอสังหาฯ มีหลายคนที่ได้ยินคำว่า proptech แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้าใจจริงๆ ว่าคืออะไร และมีความสำคัญยังไงกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีคนไม่น้อยที่เข้าใจว่า proptech ก็เหมือนกับการซื้อ ขาย หรือโพสต์ทรัพย์ลงบนเว็บประกาศอสังหาฯ แต่เราบอกได้ตรงนี้เลยว่านั่นเป็นแค่บางส่วนเท่านั้น เพราะคำนี้เป็นมากกว่าการใช้อินเทอร์เน็ต หรือกิจกรรมที่ทำผ่านทางออนไลน์ทั่วๆ ไป
หากคุณอยากรู้ว่าจริงๆ แล้ว proptech ที่เป็น buzzword ที่พบเห็นได้บ่อยในช่วงไม่มีกี่ปีมานี้นั้นเกี่ยวข้องอย่างไรกับวงการอสังหาฯ เราก็พร้อมที่จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า proptech คืออะไร และมีความสำคัญขนาดไหน
PropTech คืออะไร?
Proptech ย่อมาจากคำว่า property technology ที่หมายถึงการประยุกต์ใช้ข้อมูลร่วมกับเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอสังหาริมทรัพย์ ตั้งแต่โปรแกรม CRM ระบบบริหารจัดการลีด ระบบบริหารจัดการลิสติ้ง และอีกมากมายที่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำงานของคนในวงการอสังหาฯ เป็นไปสะดวกรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น proptech ไม่ได้จำกัดการใช้งานแค่กับนายหน้าหรือบริษัทอสังหาฯ เท่านั้น แต่เทคโนโลยีนี้ยังช่วยให้คนที่เกี่ยวข้องกับโครงการอสังหาริมทรัพย์ เริ่มจากเซลโครงการ นายหน้า โบรกเกอร์ และผู้จัดการอสังหาฯ สามารถเข้าถึงลูกค้า ดูแล ปรับปรุง และจัดการทรัพย์ที่มีอยู่ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างเช่น แอปอสังหาริมทรัพย์และเว็บไซต์อสังหาฯ ที่ใช้จัดการลูกค้าที่มีความสนใจในทรัพย์ของคุณ ซึ่งคุณสามารถดูได้ว่าพวกเขาต้องการอะไรจากคุณ พร้อมกับส่งความสนใจของพวกเขาเหล่านั้นให้กับคนในทีมหรือจัดการด้วยตัวคุณเอง สิ่งนี้ช่วยให้คุณตอบสนองลูกค้าได้รวดเร็วและมีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น
5 เทคโนโลยีอะไรที่เกี่ยวข้องกับ PropTech
Proptech นั้นมีเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและทำงานอยู่เบื้องหลังอยู่ 5 เทคโนโลยี ซึ่งแต่ละอย่างช่วยสนับสนุนในทุกกิจกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีอะไรบ้างนั้นเรามาทำความเข้าใจไปพร้อมกัน

1. Big Data
Big data เข้ามาช่วยให้ธุรกิจอสังหาฯ สามารถใช้ข้อมูลที่ได้มาจากทุกแหล่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการนำไปวิเคราะห์และวางแผนเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ และมอบในสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด เช่น การเก็บข้อมูลของคนที่เข้ามาใช้เว็บลงประกาศอสังหาฯ ว่าพวกเขาคือใคร เข้ามาค้นหาอะไร และใช้เวลาอยู่กับหน้าไหนมากที่สุด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มให้ดียิ่งขึ้น
2. IoT
IoT หรือ internet of things เป็นการเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ต ช่วยให้สามารถควบคุมและดูสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ ได้จากทุกที่ทุกเวลา อาทิ การสั่งเปิด-ปิดแอร์จากแอปพลิเคชัน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีอยู่ในบ้าน ซึ่งจะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีบริษัทหลายแห่งพัฒนาแอปอสังหาริมทรัพย์ที่ช่วยให้ลูกค้าของตนสามารถดูสถานะทุกอย่างภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการล็อกประตู การเปิด-ปิดหลอดไฟ หรือติดต่อประสานงานผู้ดูแลได้ตลอด 24 ชั่วโมง
3. Machine Learning
Machine learning เป็นเทคโนโลยีที่มี AI หรือปัญญาประดิษฐ์เข้ามาเรียนรู้และวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด โดยปัจจุบันมีระบบตรวจจับวัตถุอย่าง Detectron ที่พัฒนาโดยบริษัท Meta (Facebook) ที่สามารถจำแนกคน สัตว์ หรือสิ่งของที่อยู่ภายในรูปภาพ ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับแวดวงอสังหาฯ เพื่อแยกแยะว่ามีเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออะไรก็ตามอยู่ในรูปภาพบ้าง ซึ่งช่วยลดเวลาที่นายหน้าจะต้องมานั่งลงรายการว่าบ้านหรือคอนโดที่จะขายมีรายการทรัพย์สินอะไรอยู่บ้าง
4. Blockchain
Blockchain ไม่ได้อยู่แค่ในเรื่องคริปโทเคอร์เรนซีเท่านั้น แต่เทคโนโลยีนี้จะเข้ามาช่วยให้วงการอสังหาฯ ก้าวไปอีกขั้น โดย smart contracts หรือการเซ็นสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายผ่านระบบบล็อกเชน จะทำให้ทุกธุรกรรมการซื้อ ขาย หรือเช่า มีความรวดเร็ว ปลอดภัย และสามารถตรวจสอบได้ ซึ่งลดโอกาสที่จะมีการทุจริตหรือความผิดพลาดจากการทำสัญญาที่ไม่ถูกต้อง
5. VR และ AR
VR (virtual reality) และ AR (augmented reality) หรือเรียกรวมๆ ว่าเทคโนโลยีโลกเสมือนจริงนั้นมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดตลอดหลายปีที่ผ่านมา โดยสิ่งนี้ช่วยให้ผู้ที่ทำงานอสังหาฯ ทำงานได้ง่ายขึ้น เช่น พวกเขาสามารถเปิดแอปฯ AR เพื่อทดลองจัดวางเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในคอนโดหรือบ้านได้ และผู้ที่สนใจจะซื้อบ้านก็สามารถดูบ้านแบบเสมือนจริงผ่านระบบ VR ที่ช่วยเปิดโอกาสให้เห็นทุกซอกทุกมุมของบ้านก่อนจะไปดูสถานที่จริงได้

PropTech ช่วยคนทำงานด้านอสังหาฯ เรื่องใดบ้าง?
หลังจากที่คุณรู้แล้วว่ามี 5 เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง proptech เราก็จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่ามันสามารถช่วยคนที่ทำงานด้านอสังหาฯ ในเรื่องใดได้บ้าง
1. มีข้อมูลที่ช่วยในการตัดสินใจ
Proptech ช่วยให้นายหน้า โบรกเกอร์ บริษัทที่ปรึกษา บริษัทอสังหา ฯลฯ ใช้สำหรับการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล สิ่งนี้ช่วยให้คนที่ทำงานในแวดวงอสังหาฯ สามารถศึกษาแนวโน้มของตลาด ทำความเข้าใจความต้องการของผู้ซื้อ และวิเคราะห์กลยุทธ์ของคู่แข่งได้ ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะถูกรวบรวมอย่างต่อเนื่องโดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการค้นหาและเก็บข้อมูลด้วยตัวเอง
2. ฐานข้อมูลที่เข้าถึงได้ง่ายจากทุกที่
Cloud หรือฐานข้อมูลคลาวด์ ช่วยให้นายหน้า โบรกเกอร์ และบริษัทอสังหาฯ ต่างๆ สามารถเก็บข้อมูลที่ได้มาจากลูกค้าไว้ใช้สำหรับการวิเคราะห์และพัฒนาบริการใหม่ๆ ในอนาคต รวมถึงเก็บเอกสารไว้ในเซิร์ฟเวอร์คลาวด์ที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทั่วโลกผ่านทางอินเทอร์เน็ต ทุกธุรกรรมที่เกิดขึ้นสามารถตรวจสอบสถานะและความถูกต้อง ทั้งยังลดต้นทุนที่ใช้สำหรับจัดเก็บเอกสารแบบเดิมๆ และช่วยอำนวยความสะดวกให้การทำงานมีสะดวกและยืดหยุ่นตามความต้องการของทุกคน
3. โฆษณาเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
คนที่ทำงานในธุรกิจอสังหาฯ ได้หันมาโฆษณาและทำการตลาดออนไลน์ผ่านทางแพลตฟอร์ม เช่น Google, Facebook, IG และเว็บลงประกาศอสังหาฯ ที่ช่วยให้ลูกค้าเป้าหมายพบเห็นทรัพย์ที่พวกเขาสนใจได้ถูกที่ถูกเวลา ทั้งยังสามารถวิเคราะห์และเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้พร้อมกับการลดต้นทุนการยิงโฆษณาไปในตัว และช่วยสร้างการรับรู้ของแบรนด์มีโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น
4. เพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากกว่าเดิม
ธุรกิจอสังหาฯ หลายแห่งเริ่มพัฒนาเว็บไซต์และแอปพลิเคชันให้ก้าวสู่ความเป็น proptech เต็มตัว ด้วยการโพสต์ทรัพย์ลงบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้าตามหาบ้าน คอนโด และที่ดินได้ตรงใจและง่ายกว่าเดิม ไม่เพียงเท่านี้ ยังนำเสนอทัวร์เสมือนจริงแบบ 3 มิติ ด้วยการใช้เทคโนโลยี VR ที่ลูกค้าสามารถดูสถานที่จริงได้เหมือนกับไปเดินชมด้วยตัวเอง สิ่งนี้มอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและช่วยเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น
5. สื่อสารกับลูกค้าได้ราบรื่นตลอดเวลา
Proptech ช่วยให้การสื่อสารระหว่างทุกคนที่ทำงานในธุรกิจอสังหาฯ กับลูกค้าเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่นตลอดกระบวนการ โดยนายหน้าหรือเจ้าหน้าที่จะรู้ได้ทันทีว่ามีลูกค้าทักมาเพราะสนใจในทรัพย์ต่างๆ ผ่านทางแอปอสังหาริมทรัพย์ และแชตบอต ซึ่งลูกค้าจะได้รับการอธิบายถึงข้อสงสัยที่พวกเขามีในเบื้องต้น และหากพวกเขามีคำถามที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็จะเข้ามาพูดคุยต่อได้แบบไร้รอยต่อ

มอบประสบการณ์ใหม่ที่ดีกว่าให้กับลูกค้าด้วยการใช้งานแพลตฟอร์ม Property Flow
Proptech คือสิ่งที่เข้ามาพลิกโฉมวงการอสังหาริมทรัพย์ให้พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้นและมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจกับลูกค้ายิ่งกว่าเดิม ซึ่งหมายความว่าหากธุรกิจอสังหาฯ ของคุณสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับเทรนด์อสังหาฯ กับเทคโนโลยีดิจิทัลที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้ได้ ในอนาคตธุรกิจของคุณก็มีโอกาสที่ลูกค้าใหม่จะรู้จักแบรนด์ของคุณมากขึ้น พร้อมๆ กับการสร้างประสบการณ์อันน่าประทับใจให้กับฐานลูกค้าเดิมของคุณ
Property Flow ยินดีที่จะพาธุรกิจของคุณเข้าสู่วงการอสังหาฯ ยุคดิจิทัลอันทันสมัยด้วยฟีเจอร์มากมาย เช่น ระบบบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) ที่ช่วยให้นายหน้า โบรกเกอร์ และทีมการตลาดอสังหาฯ ของคุณ สามารถทำงานได้สะดวกรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และลดต้นทุนทั้งเรื่องเวลารวมถึงงบประมาณที่ใช้ไปในคราวเดียวกัน ปรึกษาเราฟรีตอนนี้