ดีเวลลอปเปอร์อสังหาฯ หรือนักพัฒนาอสังหาฯ คืออาชีพที่มีความสำคัญต่อโครงการอสังหาฯ เป็นอย่างยิ่ง เพราะความรู้ความสามารถของนักพัฒนาจะส่งผลให้โครงการประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมาย และช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการพัฒนาโครงการได้ ใครที่สนใจอยากเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ สามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาชีพนี้ได้ในบทความนี้

นักพัฒนาอสังหาฯ ต้องทำอะไรบ้าง

หน้าที่หลักๆ ของนักพัฒนาอสังหาฯ คือ ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการอสังหาฯ ในทุกมิติ ก่อนเริ่มพัฒนาโครงการ ได้แก่

ความเป็นไปได้ทางกายภาพ

  • ความเหมาะสมของทำเล เนื่องจากทำเลคือปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะเป็นตัวกำหนดว่าโครงการอสังหาฯ นั้นๆ จะประสบความสำเร็จหรือไม่ นักพัฒนาจึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าทำเลที่กำหนดไว้มีรูปร่างอย่างไร มีคุณสมบัติอะไรบ้าง เช่น ลักษณะดิน ความสูงของที่ดิน ความลาดชัน เป็นต้น มีศักยภาพที่จะเติบโตมากน้อยแค่ไหน
  • สาธารณูปโภค ความพร้อมของระบบสาธารณูปโภค การคมนาคม และสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆ ที่ดินที่ต้องการพัฒนาก็เป็นอีกส่วนที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหากระบบสาธารณูปโภคเข้าถึงได้ยาก ทางเข้าสัญจรไม่สะดวก ก็จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาโครงการได้
  • สรุปข้อดี ข้อเสีย หลังจากที่รวบรวมข้อมูลทั้งหมดแล้ว นักพัฒนาจะต้องนำมาสรุปว่าทำเลนั้นๆ มีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง เพื่อประเมินว่ามีความเหมาะสมที่จะนำไปพัฒนาต่อหรือไม่

ความเป็นไปได้ทางกฎหมาย

กฎหมายต่อไปนี้จะมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาอสังหาฯ นักพัฒนาจึงต้องศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ เพื่อให้โครงการพัฒนาอย่างราบรื่น มีความปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่รุกล้ำพื้นที่สาธารณะ หรือละเมิดกฎหมายจนเกิดการฟ้องร้องและชดใช้ค่าเสียหายตามมา ได้แก่

  • กฎหมายเกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ เช่น 
    • พระราชบัญญัติการผังเมือง 
    • ประมวลกฎหมายที่ดิน และเอกสารสิทธิ์ 
    • พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน 
    • พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร 
    • กฎหมายเกี่ยวกับอาคารชุด และหมู่บ้านจัดสรร
  • พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และการทำรายงานการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม หรือ EIA
  • พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์
  • และกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ความเป็นไปได้ทางตลาด

  • เศรษฐกิจ ภาวะทางเศรษฐกิจทั้งระดับจุลภาคและมหภาคคือตัวชี้วัดสำคัญที่จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุน กำลังซื้อ และโอกาสเติบโตและทำกำไรของโครงการ นักพัฒนาจึงต้องคำนึงถึงเรื่องนี้ว่าเป็นไปได้แค่ไหนที่โครงการจะประสบความสำเร็จหากเศรษฐกิจซบเซาลงทั้งในช่วงดำเนินงานและในช่วงที่โครงการเสร็จสิ้น
  • กลุ่มเป้าหมาย ทำความเข้าใจเกี่ยวกับข้อมูลด้านประชากรในทำเลนั้นๆ วิเคราะห์ปริมาณคน กำลังซื้อ ความต้องการ โดยขอข้อมูลจากหน่วยงานรัฐ ศูนย์วิจัย รวมถึงการค้นคว้าและลงพื้นที่ด้วยตนเอง
  • คู่แข่ง ศึกษาว่าในพื้นที่เดียวกันมีคู่แข่งของโครงการหรือไม่ และจะส่งผลกระทบอย่างไรต่อการดำเนินงานของโครงการบ้าง

ความเป็นไปได้ทางการเงิน

  • ต้นทุน รวบรวมว่ามีต้นทุนอะไรบ้าง เช่น ค่าที่ดิน ค่าถมดินปรับพื้นที่ ค่าก่อสร้าง ค่าแรง ระยะเวลาดำเนินโครงการ เป็นต้น เพื่อนำไปคำนวณหาว่าการพัฒนาโครงการมีความคุ้มค่าหรือไม่
  • รายรับ-รายจ่าย วิเคราะห์สภาพคล่องจากรายรับและรายจ่าย ที่ต้องลงลึกไปถึงค่าเช่า อัตราการเช่า รายละเอียดการชำระเงิน และภาระสินเชื่อต่างๆ

นอกจากนี้ หน้าที่ของนักพัฒนาอสังหาฯ ยังรวมถึงการบริหารจัดการงานก่อสร้างโครงการอสังหาฯ ตั้งแต่เริ่มต้นให้เสร็จตามเป้าหมาย

อยากเป็นนักพัฒนาอสังหาฯ ต้องเริ่มอย่างไร

  • ศึกษาหาความรู้ เข้ารับการอบรมในหลักสูตรสำหรับนักพัฒนาอสังหาฯ โดยเฉพาะ เพื่อสั่งสมความรู้ให้พร้อมทำงานมากที่สุด ซึ่งในสมัยนี้มีสถาบันมากมายเปิดอบรมหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง
  • เก็บเกี่ยวประสบการณ์ การจะเป็นนักพัฒนาที่ดีได้จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในการทำงานด้านอสังหาฯ คุณจึงต้องลงมือทำให้มากเข้าไว้ สอบถามผู้รู้ เพื่อที่จะได้รู้ลึก รู้จริง สามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้อย่างทันท่วงที
Young asian agent made agreement with clients

นักพัฒนาอสังหาฯ ที่ดีต้องมีทักษะอะไรบ้าง

  • รอบรู้ด้านกฎหมาย อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าความรู้ด้านกฎหมายนั้นมีความสำคัญต่อการพัฒนาอสังหาฯ อย่างมาก นักพัฒนาอสังหาฯ จึงต้องศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แตกฉาน เพื่อที่จะนำมาเป็นแนวทางในการทำงานได้อย่างถูกต้อง
  • รอบรู้ด้านการตลาด นอกจากความรู้ด้านกฎหมายแล้ว ความรู้ด้านการตลาดก็สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อผลักดันให้โครงการและตอบสนองความต้องการของตลาดได้จริง มีผลกำไร และประสบความสำเร็จตามเป้า
  • มีวิสัยทัศน์ การริเริ่มโครงการใหม่หากขาดวิสัยทัศน์อันยอดเยี่ยมไปก็จะทำให้โครงการไม่มีความน่าสนใจ นักพัฒนาจึงต้องมองให้ออกว่าควรทำอย่างไรให้โครงการมีความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง หรือสร้างนวัตกรรมที่ช่วยให้โครงการประหยัดพลังงานได้มากขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น เป็นต้น
  • รู้จักการวางแผนและบริหารจัดการ เนื่องจากการพัฒนาโครงการอสังหาฯ เป็นงานที่มีความซับซ้อนและมีกรอบเวลาที่เคร่งครัดมากำหนด นักพัฒนาจึงต้องวางแผนงานให้ชัดเจน และสามารถบริหารจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้โครงการเสร็จสิ้นตามเวลา
  • แก้ปัญหาเก่ง นักพัฒนาต้องเจอกับปัญหาและอุปสรรคมากมายตั้งแต่เริ่มโครงการ จึงต้องรู้จักประยุกต์ใช้ความรู้ที่สั่งสมมาใช้แก้ปัญหาหน้างานจริงให้ได้ คนที่สามารถจัดการกับปัญหาและความกดดันได้ดีจึงเหมาะกับงานนี้
  • มีมนุษยสัมพันธ์ดี นักพัฒนาจำเป็นต้องติดต่อประสานงานกับผู้คนมากมาย ทั้งทีมงานภายในบริษัท และหน่วยงานภายนอก เช่น ผู้รับเหมา ผู้ประเมินราคา สถาปนิก วิศวกร นายหน้า ทนายความ ผู้เช่า เป็นต้น จึงต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เพื่อให้การทำงานมีความราบรื่น และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย

Property Flow ตัวช่วยชั้นยอดสำหรับธุรกิจอสังหาฯ 

เรารู้ดีว่านักพัฒนามีเรื่องให้ต้องบริหารจัดการมากมาย หากคุณใช้เครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่องานอสังหาฯ โดยเฉพาะอย่าง Property Flow ก็จะช่วยให้บริหารงานได้ง่ายขึ้น ทั้งการจัดการทรัพย์ ทำการตลาดอสังหาฯ การลงโฆษณาขายบ้าน สร้างเว็บอสังหาฯ และเพิ่ม conversion คุณจึงมีเวลาโฟกัสกับธุรกิจได้เต็มที่ หากสนใจ สามารถติดต่อเราเพื่อสอบถามรายละเอียดหรือทดลองใช้ได้ฟรี

ทำให้ธุรกิจอสังหาฯ ของคุณมีคนพบเห็นทางออนไลน์มากขึ้น

เข้ามาพูดคุยเพื่อดูว่าเราจะช่วยคุณได้อย่างไร